ผ้าชีฟอง(Chiffon)
ผ้าชีฟอง นิยมนำตัดเป็นเสื้อ กระโปรง และชุดแซกทั้งแบบmini dress และแบบ maxi dress ต่างๆ ทั้งยังสามารถนำมาพิมพ์ลายต่างๆได้อย่างสวยงาม เช่น ลายดอกไม้ ลายโบว์ และอื่นๆอีกมากมาย และยังเป็นผ้าที่เหมาะกับอากาศของประเทศไทยที่มีทั้งร้อน ชื้น เป็นอย่างมากจึงไม่แปลกที่สาวๆจะทั้งหลายจะต้องแอบมีเสื้อผ้าแบบผ้าชีฟองเอาไว้ซักตัวสองตัวในตู้เสื้อผ้า
คุณสมบัติของผ้าชีฟอง
หลายๆท่านคงทราบดีว่า ผ้าชีฟองมีคุณสมบัติที่ บางเบา พลิ้ว โปร่งแสง ถ่ายเทอากาศได้ดี ไม่ดูดซึมสิ่งสกปรก สามารถซักล้างได้ง่าย แห้งเร็ว จะรีดหรือไม่รีดก็ได้ เส้นใยที่ทอผ้าชีฟองมักจะมีส่วนผสมของโพลีเอสเตอร์ด้วย จึงทำให้เนื้อผ้ามีคุณสมบัติ บางเบา พลิ้ว ให้ความรู้สึกอ่อนหวานนุ่มนวล
เป็นผู้หญิง (อ้างอิงข้อมูลจาก:http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20120109140827AAJu9fa)
การตกแต่งเสื้อผ้าชีฟอง
เท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะมีผ้าชีฟองทั้งแบบที่มีลวดลายพิมพ์แบบต่างๆและแบบที่ไม่มีการพิมพ์ลาย สีที่เป็นที่นิยมของผ้าชนิดนี้ทีทั้งสีโทนพาสเทลออกลุคหวานๆเช่น สีชมพู ฟ้า เขียวอ่อน ส้มอ่อน โอโรส เป็นต้น และ สีโทนเข้มออกลุคเซ็กซี่ ร้อนแรง เช่น สีแดงอมส้ม สีดำ สีน้ำตาลเข้ม สีเขียวมะกอก เป็นต้น ส่วนวัสดุที่นำมาตกแต่งเสื้อผ้าแนวชีฟองส่วนใหญ่ มักจะนำ ผ้าลูกไม้ รวมทั้งของประดับตกแต่งต่างๆ เช่น ลูกปัดแบบมุก แบบคริสตัล หรือแบบเพชรเทียม เลื่อมแบบต่างๆ และริบบิ้น เป็นต้น ซึ่งการตกแต่งก็จะขึ้นอยู่กับแนวของเสื้อผ้าว่าจะกำหนดให้เป็นแนวเซ็กซี่หรือแนวหวาน
การดูแลรักษาเสื้อผ้าชีฟอง
เนื่องจากผ้าชีฟองคุณสมบัติของผ้าที่ค่อนข้างจะบางเบามาก ดังนั้นในการดูแลรักษาจึงต้องดูแลให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าด้วย เช่น การซักควรซักด้วยมือและขยี้เพียงเบา ๆไม่ควรซักด้วยเครื่องเนื่องจากผ้าชีฟองเป็นผ้าที่บางและเบา ถ้าซักด้วยเครื่อง
อาจทำให้เสื้อผ้าขาดเสียหายได้
การรีดไม่ควรใช้ไฟแรงและในขณะรีดควรใช้ผ้าฝ้ายที่ทนความร้อนของเตารีดได้รองก่อนรีด ผืนผ้าที่นำมารองรีดควรมีขนาดใหญ่พอควร ทั้งนี้การรีดโดยที่มีผ้ารองรีด เพื่อไม่ให้ความร้อนของเตารีดจะได้ไม่กินผ้าชีฟองแต่ทางที่ดีอย่านำมารีดจะดีกว่าเนื่องจากเนื้อผ้าชีฟองนั้นมีลักษณะคงรูป คือไม่ยับและเสียทรงง่าย ดังน้ันหลังซักเสื้อผ้าชีฟองแล้ว ไม่ควรบิดแรง ๆ และให้ตากไปแบบนั้นเลย